Samsung Gear 2 รุ่นพี่ใหญ่สุดในตระกูลนาฬิกาอัจฉริยะ+อุปกรณ์ติดตามผลการออกกำลังกาย (SmartWatch + Fitness Tracker) ของ Samsung ณ เวลานี้ ที่ได้ถูกนำมาเปิดตัวพร้อม Samsung Galaxy S5 เป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย ทั้งยังทำให้ชีวิตของคุณสะดวกขึ้นอีกไม่น้อย ตัวเรือนของ Samsung Gear 2 ผลิตขึ้นจากวัสดุโลหะสวยงามหรูหราสมกับที่เป็น SmartWatch ระดับเรือธง จอ Super AMOLED ทรงจัตุรัสขนาด 1.63 นิ้ว ความละเอียด 320x320 พิกเซล รันระบบปฏิบัติการ Tizen ด้วยหน่วยประมวลผล Dual-Core ความเร็ว 1 GHzมีตัวเรือนให้เลือกซื้อ 3 สีได้แก่ ดำ (charcoal BLACK), ทอง (gold BROWN) และสีส้ม (wild ORANGE)
เปลี่ยน Wallpaper, แบบ Font ตัวอักษร และเปลี่ยนสไตล์ของนาฬิกาให้เป็นแบบเข็ม หรือตัวเลขดิจิตอลได้ตามใจชอบปรับแต่งการแสดงผลของ Gear 2 ให้ถูกรสนิยมของคุณได้อย่างไม่ยากเย็น
สั่งโทรออกและรับสายเรียกเข้าได้โดยตรงจาก Gear 2 ทำให้ไม่พลาดสายสำคัญที่โทรเข้ามาอีกต่อไป สามารถแจ้งเตือนอีเมล รวมถึงข้อความ SMS ขาเข้า และเปิดอ่านข้อความได้โดยตรงจากหน้าจอของ Gear 2 อัพเดททุกข่าวสารได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา
ส่งตรงทุกการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนมาถึงข้อมือของคุณ อาทิ การแจ้งเตือนจาก Gmail, Facebook, Google+, Hangouts และ Twitter ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก
จังหวะสวยๆ ของการถ่ายภาพไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ และการที่ต้องเสียเวลาหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายภาพ อาจทำให้โอกาสที่จะได้ภาพสวยๆ หลุดลอยไป Gear 2 มาพร้อมเซ็นเซอร์กล้องที่รองรับการถ่ายภาพนิ่งได้ที่ความละเอียดระดับ Full HD และถ่ายวี ดีโอได้ที่ความละเอียด 720p
ด้วยเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ระบบนับจำนวนก้าว และฟีเจอร์ S Health ที่มีอยู่ใน Gear 2 ทำให้มันเป็นผู้ช่วยที่ยอดเยี่ยมสำหรับการออกกำลังกายหลายรูปแบบ อาทิ การวิ่ง, เดินขึ้นเขา (Hiking), ปั่นจักรยาน และการออกกำลังกายด้วยการเดิน โดยสามารถกำหนดเป้าหมายการเดินได้ทั้งแบบ ระยะทาง หรือ เวลาในการเดิน โดยในระหว่างออกกำลังกายเซ็นเซอร์จะวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อนำค่ามาคำนวณว่าสามารถเผาพลาญแคลอรี่ไปกับการออกกำลังกายได้มากน้อยขนาดไหน
อีกฟีเจอร์ที่ถูกใจคนที่ชอบออกกำลังกาย แต่ไม่อยากพกสมาร์ทโฟนไปด้วยให้เกะกะ Gear 2 สามารถทำงานเป็นเครื่องเล่นเพลงได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ทำให้สามารถออกกำลังกายไปพร้อมๆ กับการฟังเพลงผ่อนคลายอารมณ์ (โดยใช้งานกับหูฟังบลูทูธ)
พร้อมเสมอสำหรับสภาพอากาศทุกรูปแบบ ผ่านการรับรองตามมาตรฐาน IP67 (สามารถป้องกันฝุ่น และทนทานต่อการจุ่มน้ำได้ที่ระดับความลึกไม่เกิน 1 เมตร)
ฟีเจอร์ WatchON Remote ที่มีอยู่ใน Gear 2 ทำให้สามารถใช้งานนาฬิกาอัจฉริยะเรือนนี้แทนรีโมทคอลโทรลสำหรับ LCV-TV และอุปกรณ์ Set-top box ได้ (ใช้ควบคุมได้เฉพาะอุปกรณ์ไฟฟ้าบางรุ่นเท่านั้น)
Gear 2 รองรับการใช้งานได้ 2-3 วันต่อรอบการชาร์จ (ถ้าใช้งานน้อยแบตอาจอยู่ได้นานถึง 6 วัน) เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตตระกูล Galaxy ได้ถึง 18 รุ่น (เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 4.0 LE) ได้แก่:
Samsung Galaxy S5 / Galaxy Grand 2 / Galaxy Note 3 / Galaxy Note 3 Neo / Galaxy Note 2 / Galaxy S4 / Galaxy S3 / Galaxy S4 Zoom / Galaxy S4 Active / Galaxy S4 mini /
Galaxy Mega 6.3 / Galaxy Mega 5.8 / Galaxy Note 10.1 (2014 Edition) / Galaxy NotePRO (12.2) / Galaxy TabPRO (12.2/10.1/8.4)
*** จำนวนสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตรุ่นที่รองรับ จะมีเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
โดยราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย จะอยู่ที่ 8,900 บาท และพร้อมวางจำหน่ายในวันที่ 11 เมษายน 2557 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับการวางจำหน่าย Samsung Galaxy S5 นั่นเอง
Samsung Gear Fit นาฬิกาอัจฉริยะ พร้อมระบบติดตามผลการออกกำลังกาย (SmartWatch+Fitness Tracker) รุ่นล่าสุดที่ทาง ซัมซุง นำมาเปิดตัวพร้อมกับ Samsung Galaxy S5 โดยกลุ่มเป้าหมายของ Samsung Gear Fit คือคนสมัยใหม่ที่รักเทคโนโลยี และใส่ใจในการดูแลสุขภาพ ดีไซน์ของนาฬิกาอัจฉริยะเรือนนี้ต้องบอกว่าดูดีไม่น้อย ด้วยหน้าจอสัมผัส Super AMOLED แบบโค้ง ขนาด 1.84 นิ้วที่โค้งรับข้อมือ สายนาฬิกาทำมาจากวัสดุยางที่มีน้ำหนักเบา และมาในโทนสีดำ (Charcoal BLACK) โดยมีสายยางสีเทา (mocha GRAY), สีส้ม (wild ORANGE) และสีอื่นๆ เป็นออปชั่นเสริมให้ซื้อเปลี่ยนได้ตามใจชอบ พร้อมการประมวลผลด้วย ARM Cortex-M4 Processor ความเร็ว 180 MHz
เปลี่ยนสีพื้นหลัง, ภาพ Background, Wallpaper และสไตล์ของนาฬิกาได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นแบบนาฬิกาเข็ม ตัวเลขดิจิตอล หรือบอกเวลาด้วยตัวอักษร เลือกสไตล์ที่โดนใจได้อย่างไม่ยากเย็น
อัพเดททุกการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนส่งตรงถึง Gear Fit ทำให้ไม่พลาดทุกข้อมูลข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนจากอีเมล, SMS, สายเรียกเข้า รวมถึงการแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นอื่นๆ โดยมีการแจ้งเตือนพร้อมแสดงเนื้อความส่วนต้นของข้อความที่ส่งเข้ามา และยังสามารถเปิดอ่านข้อความ SMS แบบเต็มๆ ผ่าน Gear Fit ได้ทันที ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถอัพเดททุกข่าวสารได้โดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา
ออกแบบเพื่อให้ผู้ใช้งานปฏิสัมพันธ์กับ Gear Fit ได้อย่างง่ายดาย สามารถเลือกที่จะปฏิเสธสายเรียกเข้าพร้อมส่งข้อความตอบกลับ หรือเลือกที่จะวางสายได้อย่างง่ายดายด้วยการใช้นิ้วปาดเลื่อนปุ่มบนหน้าจอ
Gear Fit ทำหน้าที่เป็นโค้ชที่ช่วยแนะนำการออกกำลังกายให้คุณได้เป็นอย่างดี มีเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจติดตั้งมาเรียบร้อยในตัวเรือน ในบางช่วงเวลาของการวิ่งออกกำลังกาย Gear Fit อาจแนะนำให้คุณวิ่งเร็วขึ้นเพื่อให้ชีพจรเต้นเร็วขึ้น ทำให้ได้ระดับการออกกำลังกายที่เหมาะสม
รองรับการสวมใส่ใช่งานในทุกสภาพการณ์ ผ่านการรับรองตามมาตรฐาน IP67 (สามารถป้องกันฝุ่น และทนทานต่อการจุ่มน้ำได้ที่ระดับความลึกไม่เกิน 1 เมตร)
Samsung Gear Fit รองรับการใช้งานได้ 2-3 วันต่อรอบการชาร์จ (ถ้าใช้งานน้อยแบตเตอรี่อาจจะอยู่ได้นานถึง 4 วัน) พร้อมรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตในตระกูล Galaxy ได้ถึง 18 รุ่น (เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 4.0 LE) ได้แก่
Samsung Galaxy S5 / Galaxy Grand 2 / Galaxy Note 3 / Galaxy Note 2 / Galaxy S4 / Galaxy S3 / Galaxy S4 Zoom / Galaxy S4 Active / S4 mini / Galaxy Mega 6.3 / Galaxy Mega 5.8
Samsung Galaxy Note 10.1 (2014 Edition) / Galaxy NotePRO (12.2) / Galaxy TabPRO (12.2/10.1/8.4)
*** จำนวนสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตรุ่นที่รองรับ จะมีเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
โดยราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของ Samsung Gear Fit จะอยู่ที่เพียง 5,900 บาท และจะมีการวางจำหน่ายในวันที่ 11 เมษายน 2557 ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับการวางจำหน่าย Samsung Galaxy S5 นั่นเอง
Gear 2 Neo รุ่นพี่รองในตระกูลนาฬิกาอัจฉริยะ+อุปกรณ์ติดตามผลการออกกำลังกาย (SmartWatch + Fitness tracker) ของ Samsung ที่ได้ถูกนำมาเปิดตัวพร้อม Samsung Galaxy S5 ซึ่ง Gear 2 Neo นั้นมีความสามารถใกล้เคียงรุ่นพี่ใหญ่อย่าง Gear 2 โดยได้ถูกตัดกล้องดิจิตอลออกไปแลกกับน้ำหนักตัวที่เบาลง (Gear 2 หนัก 68 กร้ม , Gear 2 Neo หนัก 55 กรัม) และราคาค่าตัวที่ถูกลง ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคนที่ไม่ต้องการถ่ายรูปด้วย SmartWatch รูปลักษณ์ของ Gear 2 Neo นั้นก็สวยงามดูดีไม่แพ้ Gear รุ่นอื่นๆ มาพร้อมจอ Super AMOLED ทรงจัตุรัสขนาด 1.63 นิ้ว ความละเอียด 320x320 พิกเซล รันระบบปฏิบัติการ Tizen ด้วยหน่วยประมวลผล Dual-Core ความเร็ว 1 GHz มีตัวเรือนให้เลือกซื้อ 3 สีได้แก่ ดำ (charcoal BLACK), เทา (mocha GRAY) และสีส้ม (wild ORANGE)
เปลี่ยน Wallpaper, แบบ Font ตัวอักษร และเปลี่ยนสไตล์ของนาฬิกาให้เป็นแบบเข็ม หรือตัวเลขดิจิตอลได้ตามใจชอบปรับแต่งการแสดงผลของ Gear 2 Neo ให้ถูกรสนิยมของคุณได้อย่างไม่ยากเย็น
สั่งโทรออกและรับสายเรียกเข้าได้โดยตรงจาก Gear 2 Neo ทำให้ไม่พลาดสายสำคัญที่โทรเข้ามาอีกต่อไป สามารถแจ้งเตือนอีเมล รวมถึงข้อความ SMS ขาเข้า และเปิดอ่านข้อความได้โดยตรงจากหน้าจอของ Gear 2 อัพเดททุกข่าวสารได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา
ส่งตรงทุกการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนมาถึงข้อมือของคุณ อาทิ การแจ้งเตือนจาก Gmail, Facebook, Google+, Hangouts และ Twitter ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก
ด้วยเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ระบบนับจำนวนก้าว และฟีเจอร์ S Health ที่มีอยู่ใน Gear 2 Neo ทำให้มันเป็นผู้ช่วยที่ยอดเยี่ยมสำหรับการออกกำลังกายหลายรูปแบบ อาทิ การวิ่ง, เดินขึ้นเขา (Hiking), ปั่นจักรยาน และการออกกำลังกายด้วยการเดิน โดยสามารถกำหนดเป้าหมายการเดินได้ทั้งแบบ ระยะทาง หรือ เวลาในการเดิน โดยในระหว่างออกกำลังกายเซ็นเซอร์จะวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อนำค่ามาคำนวณว่าสามารถเผาพลาญแคลอรี่ไปกับการออกกำลังกายได้มากน้อยขนาดไหน
อีกฟีเจอร์ที่ถูกใจคนที่ชอบออกกำลังกาย แต่ไม่อยากพกสมาร์ทโฟนไปด้วยให้เกะกะ Gear 2 Neo สามารถทำงานเป็นเครื่องเล่นเพลงได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ทำให้สามารถออกกำลังกายไปพร้อมๆ กับการฟังเพลงผ่อนคลายอารมณ์ (โดยใช้งานกับหูฟังบลูทูธ)
พร้อมเสมอสำหรับสภาพอากาศทุกรูปแบบ ผ่านการรับรองตามมาตรฐาน IP67 (สามารถป้องกันฝุ่น และทนทานต่อการจุ่มน้ำได้ที่ระดับความลึกไม่เกิน 1 เมตร)
ฟีเจอร์ WatchON Remote ที่มีอยู่ใน Gear 2 Neo ทำให้สามารถใช้งานนาฬิกาอัจฉริยะเรือนนี้แทนรีโมทคอลโทรลสำหรับLCV-TV และอุปกรณ์ Set-top box ได้ (ใช้ควบคุมได้เฉพาะอุปกรณ์ไฟฟ้าบางรุ่นเท่านั้น)
Gear 2 Neo รองรับการใช้งานได้ 2-3 วันต่อรอบการชาร์จ (ถ้าใช้งานน้อยแบตอาจอยู่ได้นานถึง 6 วัน) เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตตระกูล Galaxy ได้ถึง 18 รุ่น (เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 4.0 LE) ได้แก่:
Samsung Galaxy S5 / Galaxy Grand 2 / Galaxy Note 3 / Galaxy Note 3 Neo / Galaxy Note 2 / Galaxy S4 / Galaxy S3 / Galaxy S4 Zoom / Galaxy S4 Active / Galaxy S4 mini /
Galaxy Mega 6.3 / Galaxy Mega 5.8 / Galaxy Note 10.1 (2014 Edition) / Galaxy NotePRO (12.2) / Galaxy TabPRO (12.2/10.1/8.4)
*** จำนวนสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตรุ่นที่รองรับ จะมีเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต